วันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

เพศที่ 3, 4, 5


  โลกเราทุกวันนี้ก็เสรีมากขึ้น ไม่เว้นแม้กระทั่งเรื่องเพศ นอกจากผู้ชายและผู้หญิงแล้ว เรายังมีเพศที่ 3, 4, 5 เพิ่มขึ้นมาอีกมากมาย บางครั้งเกิดมาเป็นผู้ชายแต่ทำยังไงได้ จิตใจความรู้สึกมันคือผู้หญิง ในขณะที่ผู้หญิงบางคน กลับมีความรู้สึกและจิตใจเป็นชาย ของแบบนี้มันบังคับกันไม่ได้ เป็นอะไรก็ว่ากันไป ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็พอแล้วนะคะ
  แล้วคุณผู้อ่านทราบมั้ยคะว่า ในภาษาอังกฤษมีคำเรียกเพศอื่นๆ อย่างไรกันบ้าง โดยทั่วๆไปแล้วก็เหมือนภาษาไทยเรานะคะในการเรียกเพศที่ 3 (หรือจะ 4, 5) จะใช้คำว่า The third gender ส่วนถ้าจะเจาะลึกระบุลงไปอีก กเลือกใช้ตามนี้เลยค่ะ  

คำที่ใช้เรียกเพศชายแต่ใจไม่ใช่ชาย

                                                 gay                        เกย์
                                                 gay king                 เกย์ที่แสดงตัวตนเป็นชาย
            gay queen              เกย์ที่แสดงตัวตนเป็นหญิง

อีกคำหนึ่งที่จะแนะนำให้รู้จักก็คือ flaming ซึ่งเป็น Adjective แปลว่า กริยาที่ออกสาวมากๆเอาไว้พูดถึงสาวๆชาวเกย์ที่มีอาการสาวแตก

อาการตุ้งติ้งสาวแตก

ตัวอย่างเช่น

Tony is so flaming.
(โทนี่มีอาการตุ้งติ้งสาวแตกมาก)
George looks flaming.
(จอร์จดูสาวแตกมาก)
Look at that flaming guy!
(ดูผู้ชายที่ตุ้งติ้งสาวแตกคนนั้นสิ!)


คำที่ใช้เรียกเพศหญิงแต่ใจไม่ใช่หญิง

                                      dyke, butch, tomboy    = ทอม
                                      lesbian, femme              = ดี้


                                      homosexuality              = ความสัมพันธ์ระหว่างคนเพศเดียวกัน
                                      homosexual                    =              ใช้พูดไถึงด้ทั้งเกย์ ทอม และเลสเบี้ยน
                                      bisexual                          =               คบได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง
                                      transexual                       =               คนที่แปลงเพศแล้ว

ตัวอย่างบทสนทนา

เชอรี่ (Cherry) คุยกับชมพู่ (Chompoo) เรื่องพอล (Paul) ที่มีอาการตุ้งติ้ง

At the Bakery Shop

Cherry: Do you know Paul?
                      (รู้จักพอลมั้ย?)
Chompoo: Paul who?
                        (พอลไหนอ่ะ)
Cherry: Paul Peterson.
                        (พอล ปีเตอร์สัน)
Chompoo: Oh yeah. I know him. Why?
                        (อ๋อ ใช่ ฉันรู้จักเค้า ทำไมเหรอ?)
Cherry: Don't you think he's cute?
                        (เธอว่าเค้าน่ารักมั้ย?)
Chompoo: Umm Jenny. I think he's gay.
                        (เอ่อ เจนนี่ ฉันคิดว่าเค้าเป็นเกย์นะ)
Cherry: What? No way. But he's so cute.
                        (อะไรนะ? ไม่มีทางเค้าออกจะน่ารักขนาดนั้น)
Chompoo: I think he's gay king.
                        (ฉันว่า เค้าเป็นเกย์คิง)
Cherry: Why would you say that?
                        (ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะ?)
Chompoo: You never notice? He is so flaming sometimes.
                        (เธอไม่เคยสังเกตเหรอ? เค้าสาวแตกมากเลยนะ)
Cherry: Well, It could be just this characteristic. What about you? You play football.
                         (แหม มันก็อาจจะเป็นแค่ลักษณะของเค้าก็ได้นะ แล้วเธอล่ะ? เธอเล่นฟุตบอล)
                        Can I call you a lesbian just because you do activities that men normally do?
                         (ฉันจะเรียกเธอว่า เลสเบี้ยนได้มั้ย? เพราะเธอก็ทำกิจกรรมเหมือนผู้ชายอ่ะ?)
Chompoo: Well, people have asked me before if I am a dyke.
                        (ก็ คนมักจะถามฉันว่า เป็นทอมรึเปล่า)
                         I have always looked like a tomboy, but I like guys.
                         (ฉันก็ดูเหมือนทอมแต่ฉันชอบผู้ชายนะ)
Cherry: See? So even if Tony may look flaming to you, it doesn't mean he is gay.
                         (เห็นมั้ย? ดังนั้นถึงแม้ว่าโทนี่จะดูตุ้งติ้งสำหรับเธอแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเค้า
                          เป็นเกย์นะ)

Chompoo: O.K. you do have a point.
                         (โอเค เธอก็ฟังดูมีเหตุผล)

ว่าด้วยเรื่องฮิตที่สุด "ความรัก, ความสัมพันธ์, มิตรภาพ"

ปิ๊งกัน ตกหลุมรัก (Courting/flirting)

    ถ้าจะพูดถึงเรื่องที่วัยรุ่นมักจะคุยกันมากที่สุด ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องความรัก โดยเฉพาะอาการตกหลุมรัก หรือที่ชอบพูดว่า ปิ๊งกัน คนนั้นปิ๊งคนนี้ คนโน้นตกหลุมรักคนนั้น
  ในภาษาอังกฤษที่เราเคยได้ยินประโยคพูดในเรื่องเหล่านี้กัน ก็คงจะมี like...(ฉันชอบ...) หรือ I love...(ฉันรัก...) หรือไม่ก็สำนวน fall in love (ตกหลุมรัก)
  คำว่า ตกหลุมรัก ภาษาอังกฤษใช้คำว่า flirting อย่างที่เราอาจจะเคยได้ยินชื่อเกมหรือรายการ เช่น Flirting game (เกมตกหลุมรัก) แต่ถ้าเราจะพูดว่า ตกหลุมรักใครสักคน หรือใครตกหลุมรักใคร สำนวนที่ใช้กันทั่วไปมากที่สุดก็คงจะเป็น fall in love

ตกหลุมรัก (fall in love)
 
        ถ้าเรากำลังตกหลุมรักใครสักคนอยู่ อาจจะเพิ่งเริ่มๆอยู่ในห้วงรัก รักแรกพบ หรือปิ๊งแต่ยังไม่ค่อยแน่ใจในตัวเอง เราจะต้องพูดว่า
  I'm falling in love with...

ตัวอย่างเช่น

I'm falling in love with John.
  (ฉันกำลังตกหลุมรักจอห์น)
  Ken is falling in love with that sexy girl.
  (เคนกำลังตกหลุมรักแม่สาวเซ็กซี่คนนั้น)
  I think Jenny is falling in love with Tony.
  (ฉันว่าเจนนี่กำลังตกหลุมรักโทนี่อยู่นะ)

ส่วนกรณีที่ตกหลุมรักใครเข้าไปเต็มๆประเภทกู่ไม่กลับแล้วเนี่ยต้องแปลงสำนวนเล็กน้อยค่ะคือ ต้องเปลี่ยน Tense จาก Continuous มาเป็น Perfect เพราะ Perfect Tense ใช้แสดงถึงความต่อเนื่องของช่วงเวลา เพื่อแสดงว่า เรานั้นหลุมรักมาช่วงเวลาหนึ่งแล้ว (จะนานมากน้อยก็แล้วแต่ค่ะ)
  พูดง่ายๆ จาก falling ที่เติม ing (is/am/are falling in love...) ก็เปลี่ยนมาเป็น has หรือ have + กริยาช่อง 3 fallen แทน (has/have fallen in love...)

ตัวอย่างเช่น

I have fallen in love with him.
(ฉันตกหลุมรักเค้า) (มาสักพักหนึ่งแล้ว)
 Chompoo has fallen in love with Paul.
 (ชมพู่ตกหลุมรักพอล)  (เข้าเต็มเปา กู่ไม่กลับ)
 They have fallen in love.
 (พวกเค้ากำลังอยู่ในห้วงรัก) (มาสักพักหนึ่งแล้ว)

  ถ้าเป็นเรื่องเศร้าบ้างคนเคยรัก แต่ตอนนี้ไม่รักกันซะแล้ว คราวนี้เราต้องเปลี่ยน Tense เป็นอดีตแทน จาก fall ก็เปลี่ยนมาเป็น fell in love ค่ะ

ตัวอย่างเช่น

  I fell in love with Tony.
  (ฉันเคยรักกับโทนี่)
  Jenny fell in love with that man.
  (เจนนี่เคยรักกับผู้ชายคนนั้นแหละ)
  Ken fell in love wiyh Tukky before Cherry.
  (เคนเคยรักกับตุ๊กกี้มาก่อนหน้าเชอรี่)

หลากหลายวิธีในการพูดคำว่า ปิ๊ง

  การจะพูดว่า เราปิ๊งใครหรือใครปิ๊งเราเนี่ย นอกจาก fall in love แล้วยังมีอีกหลายวิธีนะคะ ไปดูกันเลยดีกว่า

...has/have a crush on... ...has/have a thing about...
I have a crush on him. I have a thing about her.
(ฉันปิ๊งเค้า)                                      (ฉันปิ๊งเธอ)


Ken has a crush on Cherry. He has a thing about Chompoo.

(เคนปิ๊งเชอรี่)                                    (เขาปิ๊งชมพู่)


...is/am/are mad about...                      ...has/have the hots for...

Jenny is mad about Tony.                    I have the hots for John.
(เจนนี่ปิ๊งโทนี่)                                  (ฉันปิ๊งจอห์น)


I am mad about Paul. George has the hots Sarah.

(ฉันปิ๊งพอล)                                      (จอร์จปิ๊งซาร่า)

Memo
สำหรับสำนวน has/have the hots for... จะสื่อไปในทางที่ sexy กว่าสำนวนอื่นๆนะคะ เหมือนชอบเค้าเพราะความ sexy

ตัวอย่างบทสนทนา

เจนนี่ (Jenny) กำลังเม้าท์อยู่กับชมพู่ (Chompoo) เพื่อนสาวที่ไปตกหลุมรักหนุ่มคนหนึ่งเข้า

At the Coffee Shop
Jenny:             So tell me about this guy. What is he like?
                        (ไหนลองเล่าเรื่องหนุ่มคนนี้ให้ฟังหน่อยสิ เค้าเป็นคนยังไง?)
Chompoo: Oh he's so sweet and he is such a gentleman.
                        (อ๋อ เค้าน่ารักมาก และก็เป็นสุภาพบุรุษมาก)
                         I think I am falling in love with him.
                          (ฉันคิดว่าฉันกำลังตกหลุมรักเค้าแล้วล่ะ)
Jenny:               How is that possible? You just met him last week!!
                          (จะเป็นไปได้ยังไง? เธอเพิ่งเจอเค้าเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเอง!!)
Chompoo:         Jenny I know it may seem too soon for you but I really have a thing about him.
                          (เจนนี่ ฉันรู้ว่ามันอาจจะดูเหมือนเร็วเกินไปสำหรับเธอแต่ฉันปิ๊งเค้ามากเลยนะ)
Jenny:               Well, be careful. Remember last time you fell in love?
                          (เอาเหอะ ระวังหน่อยนะ จำครั้งที่แล้วที่เธอตกหลุมรักได้มั้ย?)
                          It's did end well. Take your time to study this one, okay?
                          (มันจบไม่สวยเลยนะ ให้เวลาตัวเองดูๆคนนี้ไปก่อนนะ โอเค?)

จีบกัน
พอปิ๊งกันแล้ว ถ้าจะเริ่มจีบกันล่ะ การจีบกันในภาษาอังกฤษนิยมใช้กันอยู่ 2 คำดังนี้ค่ะ
flirt with hit on

Memo 
คำว่า Court ก็ใช้สื่อความหมายว่าจีบกันได้ แต่คำนี้ค่อนข้างจะโบราณไปนิดนะคะ ไม่ค่อยมีใครใช้กันเท่าไหร่ แต่รู้ไว้ก็ดีนะคะ เช่น They are courting. แปลว่า พวกเขากำลังจีบกันค่ะ

กำลังจีบอยู่

ตัวอย่างเช่น

Tony is flirting with Tukky.

  (โทนี่กำลังจีบตุ๊กกี้อยู่)
  My boss is hitting on me!!
  (เจ้านายกำลังจีบฉันอยู่ล่ะ!!)
  Chompoo is flirting with that guy.
  (ชมพู่กำลังตามจีบชายหนุ่มคนนั้นอยู่)

จีบกันมาสักพัก

ตัวอย่างเช่น

Paul has flirted with Cherry.

  (พอลจีบเชอรี่มาสักพักแล้วล่ะ)
  They have flirted.
  (พวกเค้าจีบกันมาสักพักแล้ว)
  John has hit on Jenny.
  (จอห์นตามจีบเจนนี่มาสักพักแล้ว)

เคยจีบ (อดีต)

ตัวอย่างเช่น 

My boss hit on me!!

  (เจ้านายฉันเคยจีบฉัน!!)
  They flirted.
  (พวกเค้าเคยจีบกัน)
  I hit on Sarah.
  (ฉันเคยจีบซาร่านะ)

ตัวอย่างบทสนทนา

เจนนี่ (Jenny) นั่งคุยกับตุ๊กกี้ (Tukky) ในร้านกาแฟ กำลัง people watching (แอบดูพฤติกรรมคนอื่น) กันอยู่

Jenny: Tukky tukky. Look at that couple. The guy is shitting on the girl.
               (ตุ๊กกี้ ตุ๊กกี้ ดูคู่นั้นสิ เจ้าหนุ่มนั่นกำลังจีบสาวคนนั้นใหญ่เลย)
Tukky: Why would you say that?
               (ทำไมว่างั้นล่ะ?)
Jenny: Look at how he looks straight into her eyes.
               (ดูเวลาที่เจ้าหนุ่มมันจ้องตาสาวสิ)
Tukky: Oh yeah. They are definitely flirting with each other.
                (เออ ใช่ เค้ากำลังจีบกันแน่นอนเลยอ่ะ)

Memo
  คำว่า hit นั้นใช้รูปเดียวคือ hit ทั้งเป็นกริยาช่อง 1 , ช่อง 2 และช่อง 3 ค่ะ ดังนั้น เมื่อใช้คำว่า hit ในประโยคที่แสดงถึงอดีต จึงไม่เปลี่ยนรูปใดๆ ยังคงเป็น hit อยู่เหมือนเดิม

เรียนภาษาอังกฤษ

ชี้แจงแถลงไข...

ปีหน้าเรา ก็จะก้าวสู่ความเป็นประชาคมอาเซียนอย่างเต็มตัวแล้วนะคะ
ทุกๆประเทศก็กำลังเตรียมตัวให้พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้
ภาษาก็เป็นเรื่องหนึ่งที่สำคัญคะ เมื่อมีคนหลายชาติหลายภาษาต้องมารวมตัวกัน
ติดต่อสื่อสารกัน ก็จำเป็นต้องมีภาษากลาง แล้วภาษากลางนั้นก็คงหนีไม่พ้นภาษาอังกฤษ
ที่ผ่านมาเรามักจะมองว่า การเรียนภาษาอังกฤษจะเกิดขึ้นเฉพาะในห้องเรียนเท่านั้น
แต่เมื่อประชาคมอาเซียนเกิดขึ้น พวกเราจะต้องใช้ภาษาอังกฤษนอกห้องเรียนกันแล้วค่ะ
ภาษาอังกฤษจะกลายเป็นภาษาที่เราใช้จริงในชีวิตประจำวันแล้วค่ะ


บล็อกนี้จึงเกิดขึ้นเพื่อเป็นคู่มือให้กับใครก็ตามที่สนใจจะศึกษาภาษาอังกฤษด้วยตนเอง
ไม่ว่าจะวัยรุ่นหนุ่มสาว หรือวัยไม่ค่อยหนุ่มสาวแล้ว ก็สามารถเข้ามาอ่าน
และฝึกภาษาอังกฤษด้วยตนเองได้ ข้าพเจ้าได้รวบรวมตัวอย่างการใช้คำ รูปประโยค
และบทสนทนาให้เลือกใช้ตามวาระโอกาสที่เหมาะสม ข้าพเจ้าได้รวบรวมบทสนทนา
ในหัวข้อต่างๆที่มักจะไม่มีใครสนทนาพูดถึงกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสนทนาระหว่างเพื่อนๆในงานปาร์ตี้ หรือการกอสซิปกับเพื่อนๆ คำศัพท์ต่างๆที่มีการระบุระดับของภาษา เช่น เป็นภาษาทางก๊านทางการ จนถึงระดับที่เอาไว้เม้าท์มอยหอยขมกับเพื่อน หวังว่าบล็อกนี้จะช่วยตอบโจทย์ของผู้อ่านทุกคนที่สนใจและรักการเรียนภาษาอังกฤษในรูปแบบใหม่ๆค่ะ